เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 17 เมษายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มูลนิธิใต้เต็กตึ๊ง อ.ทุ่งใหญ่ ได้รับแจ้ง เกิดเหตุรถกระบะชนรถจยย.มีผู้ได้รับบาดเจ็บ พื้นที่หมู่ 1 ต.กุแหระ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช จึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่ีเกิดเหตุ พบผู้บาดเจ็บเป็นหญิง อายุ 25 ปี ได้รับบาดเจ็บมีแผลบริเวณศีรษะนอนอยู่บริเวณกระบะหลังของรถคู่กณี ส่วนคู่กรณีเป็นรถกระบะ คนขับเป็นชายอายุประมาณ 40 ปี ซึ่งเป็นญาติกันกับคนเจ็บ และมีชาวบ้านรวมถึงสารวัตรกำนันรอเจ้าหน้าที่กู้ภัยตรงที่เกิดเหตุด้วย
เจ้าหน้าที่จึงรีบปฐมพยาบาลทำแผลให้คนเจ็บทันที เนื่องจากมีแผลขนาดใหญ่บริเวณหน้าผาก ยาว 4 – 5 ซม. และคนเจ็บขยับตัวได้ไม่มาก ก่อนจะนำคนเจ็บขึ้นเปลเตรียมพาขึ้น ในระหว่างนั้นคู่กรณีก็มีทีท่าไม่ยินยอมให้กู้ภัยนำคนเจ็บส่งรพ. จนสารวัตรกำนันต้องเข้ามาเคลีย เนื่องจากคนเจ็บเริ่มอาการไม่ค่อยดี จนคู่กรณียินยอมให้กู้ภัยนำส่งรพ.
แต่พอสารวัตรกำนันออกจากจุดเกิดเหตุ ชายคู่กรณีก็โวยวายขึ้นมาทันที บอกว่าจะนำคนเจ็บส่งรพ.เอง แต่กู้ภัยเป็นห่วงจึงพยายามพูดคุย เนื่องจากคนเจ็บมีแผลที่หน้าผาก และไม่แน่ใจว่ากระโหลกกระทบกระเทือนแค่ไหน
ในส่วนของคู่กรณี ระบุว่า เป็นห่วงเรื่องค่าใช้จ่าย ทางกู้ภัยจึงยืนยันว่า ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น ในการขนย้ายคนเจ็บส่งรพ. ค่าใช้จ่ายจะมีแค่ที่รพ.เท่านั้น ซึ่งคนเจ็บเริ่มจะไม่ไหว กู้ภัยจึงจะขอพาไปส่งก่อน แต่คู่กรณีไม่ยอม เริ่มใช้ถ้อยคำหยาบคาย และคล้ายมีอาการเมา บอกแค่ให้รออามาที่เกิดเหตุก่อน ไม่งั้นจะไม่รับผิดชอบอะไรใดๆทั้งสิ้น
กู้ภัยจึงยอมรอ ไม่นานคนที่ถูกกล่าวอ้างว่าเป็นอาก็มาถึง และได้เดินไปพูดคุยกับคู่กรณีแต่คาดว่าตกลงกันไม่ได้ จึงเดินมาบอกให้กู้ภัยนำครเจ็บลงจากรถ เพราะกลัวจะเกิดปัญหา ไม่อยากให้บานปลาย กู้ภัยจึงตัดสินใจนำคนเจ็บลงจากรถตามคำขอ เพราะอยากให้คนเจ็บได้ไปรพ.อย่างเร็วที่สุด เนื่องจากอาการเริ่มไม่ดีแล้ว แต่ก็เป็นห่วง กลัวจะได้รับบาดเจ็บเพิ่มจากการเคลื่อนย้ายที่ไม่เหมาะสมและไม่มีอุปกรณ์ป้องกันและไม่มีเจ้าหน้าที่คอยดูอาการ
อย่างไรก็ตาม คู่กรณีได้ขับรถออกไปจากที่เกิดเหตุ และได้ให้คนเจ็บขึ้นรถไปกับญาติ ส่วนกู้ภัยก็เดินทางกลับ แต่ก็ยังคงเป็นห่วงคนเจ็บจึงรอดูจนคนเจ็บขึ้นรถไป
ข่าวโดย ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครศรีธรรมราช
เรียบเรียง สยามนิวส์
