เปิดชีวิต ‘บุ๋ม รัญญา’ วัย 54 เคยเสียรู้เป็นเมียน้อยก่อนเลิก
บุ๋ม รัญญา ผู้กำกับละครที่มาแรงอย่าง พริ้งคนเริงเมือง กำลังแฮปปี้หลังเปิดตัวมีแฟนเป็นผู้หญิงดีกรีเป็นนักการเมือง รับชีวิตนี้ไม่คบผู้ชายมาตั้งแต่อายุ 31 ด้วยความที่ตัวเองเป็นคนที่เยอะ ทำอะไรต้องมีวินัยและมีระเบียบ เลยทำให้ผู้ชายอยู่ด้วยไม่ได้ ทุกวันนี้ยังมีผู้ชายมาจีบไหม? “ ไม่มีนะ (หัวเราะ) พี่คิดว่า เขารู้แล้วว่าพี่เป็นแบบอย่างนี้ แต่ว่าโดยรวมตั้งแต่สมัยเด็กๆ พี่ไม่ประสบความสำเร็จเรื่องความรัก” เคยมีแฟนเป็นผู้ชายไหม? “เคยค่ะ มีแฟนเป็นผู้ชาย
มาก็ไม่น้อย แต่รู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่ผู้ชายอยู่ด้วยแล้วเบื่อ ซึ่งเป็นคนเอาแต่ใจ เป็นคนเยอะ เป็นคนมีเงื่อนไขในการใช้ชีวิตคู่เยอะมาก กับเพื่อนไม่เป็นไร กับการทำงานยังไงก็ได้แต่พอกับคู่ชีวิต บุ๋มจะเยอะทันที ตั้งกฎเกณฑ์นี่นั่น ใครอยู่กับพี่ได้ยอมรับว่าอึด พี่บอกตรงๆ นะพี่ไม่ได้มาอ่อนน้อมถ่อมตน แต่พี่รู้ว่า
ตัวเองเป็นคนเยอะ คือบอกกับตัวเองเสมอว่า พี่เหมาะที่จะอยู่คนเดียว ง พี่บุ่มเคยเป็นเมียน้อยเขามาก่อน บุ๋ม “จริง แต่ไม่มีใครทำพี่นะ พี่ทำตัวเอง คือตอนที่ เจอกัน พี่ไม่รู้ว่าเขาจะแต่งงาน เพราะเราเพิ่งอกหักมา เสร็จแล้วเราก็ตกลงคบกัน แล้วเขาก็ไปแต่งงานและเขาก็มาบอกเรา ก่อนแต่งงานเราก็รู้ค่ะก่อนเขาแต่ง อาทิตย์หนึ่ง แต่เราก็คบต่อ เพราะเรารัก พอวันหนึ่งเริ่มรู้สึกว่ามันไม่ใช่ อย่างแรกเลยผิดศีลแน่นอน ไม่รู้ว่ากรรมนี้มันจะตกอยู่กับใคร เพราะมันไม่มีความสุข
เราอยู่ตรงนั้น 2 ปี แล้วก็เลิก จำได้ว่าไปอเมริกา ไปเจอเขาแล้วก็กลับมา ทำทุกอย่างให้หายตัวไปเลย เขาไม่ได้อยู่เมืองไทยค่ะ” “แต่นั้นไม่ใช่ประเด็นที่ทำให้เรา รักเพศเดียวกันนะ เราบอกเลยว่าเราเป็นคนที่มีแฟนผู้หญิงมาตั้งแต่เด็กเหมือนกัน เพียงแต่ว่าความรักสำหรับเราไม่แยกเพศ ถ้าเรารักใครเราก็อยากอยู่กับคนนั้น”
เรามีแฟนมาก่อนไหม? “ตลอดๆ พี่ไม่มีแฟนเป็นผู้ชายมาตั้งแต่อายุ 31 แล้ว (หัวเราะ) ก่อนเป็นนักแสดงเจ้าบทบาท จริงๆ ไม่ชอบ ไม่อยากเป็นดาราเลยนะคะ อยากเป็นพยาบาล แต่ว่าแม่ให้หยุดเรียนปีหนึ่ง ก็น้อยใจเสียใจ แล้วแม่ก็บอกว่าโรงเรียนการแสดงช่อง 3 เขาเปิดสอนฟรี อยากให้เราไปเรียน ย้ำนะคะว่าเรียนฟรี ไม่เสียเลยสักบาท แต่ใจเราไม่อยากไปเรียนเลย เพราะว่าเราไม่ได้อยากเป็นดารา จะให้ไปเรียนทำไม ไม่เข้าใจ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไร ก็เลยไปค่ะ แล้วพอดีว่าได้ตังค์ด้วย
เพราะว่าจะมีโมเดลลิ่งติดต่อให้ไปงานนู่นนี่นั่น อีเว้นท์ถ่ายแบบเดินแบบ เมื่อ 30 ปีที่แล้วได้วันละพัน นี่ไม่น้อยนะคะ เราก็เลยไปหลังจากนั้นก็เรียนต่อไปเรื่อยๆ กับความคิดที่ไม่อยากเป็นดาราถึงตอนนี้ลืมไปเลยค่ะ เพราะความที่เป็นอาชีพ และทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของเราดีขึ้น ปัจจุบันก็ไปๆมาๆที่บ้านจังหวัดแพร่และทำงานวงการ